ผู้เขียนเพิ่งเดินทางกลับจากทีปภาวันธรรมสถาน เพื่อทำหน้าที่ส่วนตัวต่อ หลังจากเดินทางไปพัก เพื่อเก็บข้อมูลรายงานกิจกรรมต่างๆ ของทีปภาวันธรรมสถานเป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง
เกือบหนึ่งปีที่ผู้เขียนไม่ได้เดินทางไปทีปภาวันธรรมสถาน กลับไปเที่ยวนี้ทำให้สามารถเก็บข้อมูลและกิจกรรมของทางทีปภาวันธรรมสถานมานำเสนอเพิ่มเติมที่บล็อกนี้ได้มากพอสมควร ทั้งส่วนของรูปภาพ และข้อมูลทั่วไป
ผู้เขียนเดินทางไปถึงทีปภาวันธรรมสถาน เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงคอร์สฝึกอบรมชาวต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักสูตรประจำเดือนมกราคมนี้ โดยเดือนนี้ มีชาวต่างประเทศจากหลายประเทศกว่า ๓๗ คน เข้าร่วมอบรม
ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ มีกิจกรรมฝึกอบรมปฏิบัติทั้งหลักสูตรปกติ คือ หลักสูตรสุดสัปดา์ห์แสวงหาอริยทรัพย์ หลักสูตรหาสุขได้จากทุกข์ หลักสูตรสำหรับชาวต่างประเทศ และยังมีหลักสูตรพิเศษเพิ่มเติมอีก ๓ หลักสูตร เนื่องจากมีสถานศึกษาสองแห่ง และหน่วยงานอีกหนึ่งแห่งจากจังหวัดตรัง มาเข้ารับการฝึกอบรมที่ทีปภาวันธรรมสถาน ไม่นับหลักสูตรอบรมจริยธรรมสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาที่สวนธรรมเภรีอีก ๒ ครั้ง
จึงเป็นที่น่ายินดีและอนุโมทนา กับปราฏการณ์การให้ความสนใจและการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติธรรมภาคภาวนา ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของผู้ปฏิบัติธรรมชาวต่างประเทศนั้น พบว่ามีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความสนใจการปฏิบัติธรรมภาคภาวนาของประชาชน นอกจาก
จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการให้ความสนใจพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีในเบื้องต้นแล้ว ก็ยังให้ช่วยให้มีความหวังต่อไปได้ว่า โดยอาศัยการปฏิบัติธรรมภาคภาวนาเป็นจุดเริ่มต้น จะช่วยกระตุ้นให้ ผู้ปฏิบัติอยากทำความเข้าใจพระพุทธศาสนาในเชิงลึกและกว้างต่อไปด้วย ซึ่งนั่นก็หมายถึงความมั่นคงของพระพุทธศาสนา และหมายถึงความสงบร่มเย็นของโลกและสังคม
นอกจากจะรายงานกิจกรรมของทีปภาวันธรรมสถานที่บล็อกแห่งนี้แล้ว ผู้เขียนยังได้นำเสนอรายละีเอียดของทีปภาวันธรรมสถานไว้ที่เว็บไซด์ www.dipabhavan.org อีกที่หนึ่ง เนื่องจากการนำเสนอข้อมูลรายละเอียดผ่านบล็อกอาจมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น ที่บล็อกนำเสนอได้ในรูปแบบของบทความเท่านั้น เนื่องจากหน้าเว็บ (แถบหัวข้อด้านบน) มีจำกัดให้เพียง ๑๐ หน้าเท่านั้น ทำให้ผู้อ่านที่ต้องการเปิดหาข้อมูล ต้องมาเลือกค้นจากบทความ ซึ่งค้นหาได้ไม่ค่อยสะดวกนัก
อนึ่ง การรายงานกิจกรรมของทีปภาัวันธรรมสถาน ของผู้เขียนที่บล็อกแห่งนี้ อาจจะไม่อยู่ในสถานะอัพเดทได้ตลอดเวลา เนื่องจาก ผู้เขียนมีข้อจำกัดเรื่องภาระหน้าที่ส่วนตัว ทำให้ไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ทได้ตลอด
ดังนั้น หากพบว่าข้อมูลที่บล็อกแห่งนี้ไม่ค่อยเคลื่อนไหว ผู้อ่านสามารถติดตาม หรือติดต่อสอบถามได้ที่เว็บไซด์ www.dipabhavan.org ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยให้รายละเอียดอยู่เป็นประจำ