วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

มุมมองในวิถี


เกาะกลางใจ

ที่กุฏิชั้นเดียวยกสูง หลังคารูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ขนาดกว้างยาวประมาณ หกคูณแปดเมตร ไม่มีการปรุงแต่งด้วยสีสันโดยเว้นการทาสีทั้งผนังด้านในด้านนอก ลักษณะการก่อสร้างผสมผสานแบบก่ออิฐถือปูน และมีบางส่วนของโครงสร้างเป็นไม้มะพร้าว ฝาผนังบางส่วนเป็นไม้เทียมยี่ห้อคุ้นหู หลังคามุงด้วยวัสดุแบบ แอสพอลท์ ชิงเกิล ซึ่งเป็นวัสดุมุงหลังคาแบบใหม่ที่สามารถรับมือกับการตกกระแทกจากลูกมะพร้าวและกิ่งไม้ และด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ เนื่องจากสร้างติดเนินเขาที่ค่อนข้างลาดเอียง จึงต้องตั้งเสาและคานล่างแนวยาวด้านหนึ่งชิดผนังเขา ด้านที่เหลือได้ที่ว่างให้ลงเสาได้ตามปกติ แต่กระนั้นความสูงต่ำไม่เสมอกันของพื้นที่ ก็ทำให้เสาส่วนที่ตั้งบนพื้นดินจนถึงคานล่างแต่ละด้านดูสูงไม่เท่ากัน จึงเป็นความฉลาดของผู้คิดก่อสร้าง ที่สามารถสร้างที่พักอาศัยในพื้นที่ที่ไม่เอื้ออำนวย และทำให้ได้รูปแบบสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ดูกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม

ผนังห้องด้านที่หันหน้าออกทางทะเล ครึ่งหนึ่งเป็นกระจกใสบานใหญ่ ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพด้านนอกจากภายในห้องได้ ประตูทางเข้าติดกับระเบียงด้านนอก ที่เชื่อมต่อด้วยบันไดทางลงจากกุฏิก็ตั้งอยู่ด้านเดียวกัน

เช้าวันใหม่ ส่งสัญญาณด้วยแสงเงินยวงที่สาดพาดฟากฟ้าด้านตะวันออก ส่องให้ปุยเมฆสีขาวเทาที่ลอยเรียงฉาบท้องฟ้าส่งประกายวาว บนผืนทะเลฟ้าเริ่มสว่างพอให้มองเห็นระลอกคลื่นเป็นฟองฟูฟ่องสีขาว วิ่งเรียงกันเข้าหาชายทะเล นอกเหนือจากส่วนที่ทิวไม้และทิวเขาบดบัง สามารถมองเห็นบางช่วงของชุมชนหัวถนน ที่ตั้งเรียงกันตามพื้นราบชายฝั่ง

ยกเว้นวันพระที่ญาติโยมจะพากันขึ้นมาทำบุญฟังธรรมกัน หกนาฬิกาสิบห้านาทีของทุกเช้า เป็นเวลาออกบิณฑบาตตามปกติ ชุมชมหัวถนนเป็นจุดหมายสุดท้ายของเส้นทางเดินบิณฑบาตในแต่ละวัน

เส้นทางลงจากเขาไปยังชุมชนด้านล่างมีสองทาง เส้นทางที่เลือกเดินเป็น ถนนลูกรังแคบๆ ซึ่งเป็นเส้นทางลัดตัดเข้าระหว่างสวนมะพร้าวของชาวบ้าน ห่างจากถนนใหญ่รอบเกาะด้านล่าง ประมาณหนึ่งกิโลเมตรครึ่ง สองข้างทางเป็นต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ขึ้นเรียงต้นสลับกับต้นมะพร้าว ให้ความร่มครึ้มพอประมาณ มีแสงอาทิตย์ส่องผ่านได้รำไร

ถึงช่วงที่เป็นทางเดินลงเขา ค่อนข้างลาดชัน และลดเลี้ยว ช่วงแรกที่ยังไม่ได้ลาดด้วยพื้นซีเมนต์ เป็นถนนลูกรังที่พื้นผิวไม่เสมอกัน มีแอ่งหลุมลักษณะเป็นทางน้ำไหลผ่านเป็นช่วงๆ พื้นขรุขระไปด้วยดินทรายหยาบๆ ผสมหินกรวดขนาดต่างๆ ลาดอยู่ทั่วพื้นถนน ที่ค่อยๆ ลาดเอียงลงสู่พื้นที่ต่ำ ผิวของก้อนกรวดที่ค่อนข้างเรียบเกลี้ยง สัณฐานกลมมน และเรียวรี เป็นส่วนใหญ่ บวกกับความลาดชันของพื้นที่ทำให้เกิดความลื่นขณะถูกน้ำหนักเท้าย่ำผ่าน หากเดินพลาด บาตรกับพระ ต้องแยกกันไปคนละทางแน่นอน เพราะความที่ต้องระมัดระวัง ทำให้เหมือนได้แบบฝึกหัดสติไปในตัว จนผ่านช่วงที่เป็นถนนลูกรังไปจึงเดินได้สะดวกขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ก็ต้องระวังเพราะพื้นที่ระหว่างนี้ยังคงลาดชัน

บางช่วง ระดับสายตาจะอยู่เหนือยอดไม้ สามารถมองเห็นท้องทะเลที่เวิ้งว้าง จรดกันแนบสนิทกับท้องฟ้า แทบไม่เห็นรอยต่อ ราวกับทั้งทะเลและท้องฟ้ารวมเป็นผืนหนึ่งเดียวกัน

โขดหินขนาดและรูปร่างต่างๆ วางเรียงรายอยู่สองข้างทาง ต้นไม้บางชนิดได้อาศัยโขดหินเป็นบ้าน บางส่วนของรากและลำต้น โอบรัดก่ายเกี่ยวกับโขดหินไปมา ราวกับโขดหินก้อนนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้นไม้ต้นนั้นจะขาดไม่ได้ จึงต้องเหนี่ยวรั้งไว้อย่างเต็มกำลัง บอกให้เห็นถึงความดิ้นรนเพื่อการดำรงอยู่ของชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่อยู่ได้ด้วยการพึ่งพิงสิ่งอื่น หากจะคิดไป มีอะไรบ้างในโลกนี้ที่อยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งอื่น ต้นไม้ต้นนี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่สอนตนเองให้ลดความเย่อหยิ่งทะนงตน ต้องอ่อนโยนกตัญญู และเห็นคุณค่าของบุคคลและสิ่งแวดล้อมมากมายที่ชีวิตกำลังพึ่งพาอาศัยอยู่

เดินต่อมาเรื่อยๆ พื้นที่ค่อยๆ ทอดต่ำลง ภาพทะเลและท้องฟ้าที่มองเห็นอยู่ต่อหน้าเริ่มลับหายจากสายตาไปทีละน้อย จนไม่สามารถมองเห็นได้อีกเมื่อเดินลอดผ่านใต้ต้นไม้ ที่เรียงต้นทอดขนาบสองข้างทาง

เดินผ่านลงเขาเกือบถึงพื้นที่ราบ ก่อนถึงถนนใหญ่ประมาณสามร้อยเมตร ลึกเข้าไปจากทางเดินด้านขวามือประมาณสองร้อยเมตร มีบ้านคนอยู่สองสามหลัง ฝูงสุนัขพันธุ์ลูกผสมเกือบสิบตัวพากันวิ่งออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง กระดิกหางเข้ามาด้วยท่าทีเป็นมิตร ส่งเสียงครางหงิงๆ สายตาเหมือนวิงวอนร้องขออะไรสักอย่าง วันนี้ ไม่มีหรอก กลับไปเถอะ แน่ะ ยังตามอีก ไว้วันหลังก่อน วันนี้ไม่มี พวกมันวิ่งตามไปจนเกือบถึงถนนใหญ่ จนแน่ใจแล้วว่าหมดหวัง จึงพากันวิ่งกลับเข้าบ้าน

เรื่องไม่ราบรื่นลงเอยง่ายๆแบบนี้หรอก เมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรก ตอนนั้น สายตาท่าทีที่พวกมันมองมา ราวกับเห็นคู่อริที่จะมาแย่งชิงอาณาเขต จึงพากันวิ่งเห่าพร้อมกรูกันเข้ามาหา ในสถานการณ์เช่นนั้น ไม่มีอะไรทำได้นอกจากเดินเฉยไปเรื่อยๆ กล่าวกันว่า สุนัขเห่าจะไม่กัด สำหรับครั้งนี้ คำกล่าวนี้ก็ยังเป็นจริงอยู่ ไม่เช่นนั้น ยังนึกไม่ออกเลยว่า จะทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น

วันต่อๆมา กระทั่งคิดวิธีผูกมิตรกับพวกมันด้วยเศษขนมที่เหลือจากฉัน หลังจากวันนั้น ถ้าพวกมันเหลือบมาเห็นเวลาที่เดินผ่าน ก็จะพากันวิ่งออกมา เพื่อทวงค่าผ่านด่านเป็นประจำ วันไหนที่ไม่มีขนมติดมือลงมาด้วย เมื่อเดินผ่านบริเวณบ้านนั้น จำต้องรีบเดินจ้ำให้ผ่านไปไวๆ เพื่อไม่ให้พวกมันสังเกตเห็น ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นสายตาของพวกมันแล้ว อดสงสารไม่ได้ หากพวกมันต้องผิดหวัง ส่วนขากลับ ประดิษฐ์ ช่างประจำสำนัก มารับกลับขึ้นทางถนนอีกด้านหนึ่ง จึงไม่ต้องพบกับแก๊งสี่ขาเป็นรอบที่สองอีก

กว่าจะเดินลงมาถึงถนนใหญ่ เป็นเวลาประมาณ ๗ โมงเช้าแล้ว ถนนช่วงชุมชนหัวถนน อยู่ห่างชายทะเลไม่เกินสิบเมตร ทั้งสองฟากถนน มีร้านอาหาร ร้านให้บริการนวดแบบสปา บ้านเรือน และร้านค้าปลีกขนาดเล็กๆ บางช่วงเป็นโรงแรมที่พักขนาดเล็กสำหรับนักท่องเที่ยว

บางวันจะเดินสวนกับฝรั่งทั้งชายหญิง ที่กำลังวิ่งออกกำลังกาย ฝรั่งผู้ชายบางคนวิ่งถอดเสื้อโชว์กล้ามโต ใส่กางเกงนักมวยปักคำว่า มวยไทย ที่นี่มีค่ายฝึกมวยไทยให้นักท่องเที่ยวที่สนใจลองฝึก และมีสนามมวยให้ขึ้นชกได้ด้วย มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ แหล่งท่องเที่ยวไหนๆ ก็มักจะมีไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยว

หน้าที่ของผู้ฝึกฝนตนตามแนวทางของพระพุทธศาสนา หากจะเปรียบเทียบ ก็คงจะคล้ายๆ กับฝรั่งนักชกคนนี้ ต่างแต่เป็นการฝึกกำลังใจให้แข็งแกร่งด้วยสมาธิ ฝึกแม่ไม้มวย คือปัญญาให้ชำนาญไว้ต่อสู้กับคู่ต่อสู้คือกิเลสภายในใจ แต่กิเลสเป็นคู่ต่อสู้ตลอดกาล ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง เป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ปล่อยโอกาสให้พักผ่อน คู่ต่อสู้ที่ตามราวีแม้ในตอนนอนหลับ ด้วยความฝันที่น่าหวาดกลัว การต่อสู้กับกิเลส ไม่มีการพักยกเหมือนนักมวยบนสังเวียน กิเลสเป็นคู่ต่อสู้ที่ปล่อยอาวุธทำร้ายจิตใจไม่ว่างเว้น และไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย กิเลสสามารถปล่อยอาวุธที่มีพิษสงร้ายกาจ ทั้งแยบยลแพรวพราวและล้ำลึก หากใครรู้ไม่ทันก็จะโดนอาวุธของกิเลส ทำให้เจ็บปวดทุกข์ทรมานทุกทีไป ชีวิตจึงต้องเตรียมความพร้อมฝึกฝนเพื่อระมัดระวังตนอยู่เสมอ การต่อสู้กับกิเลสคงต้องดำเนินไปอีกนานแสนนาน จนกว่าผู้ฝึกฝนตนจะเอาชนะกิเลสและความทุกข์ได้อย่างเด็ดขาด

ช่วงที่ร้านรวงและบ้านเรือนตั้งอยู่ห่างกัน ทำให้ได้ยินทั้งเสียงคลื่นซัดสาดเข้ากระทบฝั่ง พร้อมทั้งเห็นภาพระลอกคลื่นทยอยวิ่งเข้าสู่ฝั่งได้อย่างชัดเจน จากที่เห็นอยู่ไกลลิบตาตอนที่มองจากระเบียงกุฏิบนเขา ภาพเหล่านี้ทำให้รู้สึกตื่นตาไม่น้อย สำหรับคนที่นานๆครั้งจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้ จึงทำให้อดเหลือบมองดูไม่ได้ แต่ต้องไม่ลืมตื่นตัว เพราะอีกด้านคือท้องถนน ที่รถรากำลังวิ่งไปมาขวักไขว่ ในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้า

เมื่อเดินไปได้ประมาณหนึ่งกิโลเมตร จึงเริ่มรับอาหารบิณฑบาตจากโยมที่มายืนรอตักบาตร กิริยาอาการของโยมที่มีความนอบน้อมขณะตักบาตร บ่งถึงจิตที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา และสีหน้าที่อิ่มบุญ บ่งถึงความอิ่มเอิบในการถวายทานของตน เมื่อรับอาหารบิณฑบาต และสวดบทให้พรโยม เป็นภาษาบาลีสั้นๆ เสร็จแล้ว จึงเดินเลียบถนนต่อไป เพื่อรับอาหารบิณฑบาตจากญาติโยมอีกหลายคน ที่รอตักบาตรอยู่เป็นประจำทุกเช้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น