ต้นทางธรรม ต้นทางชีวิต
เมื่อชีวิตเริ่มต้น ความจำเป็นแห่งธรรมะก็เริ่มขึ้น
ธรรมะ คือ หลักความจริงของชีวิต
และการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักความจริงนั้น
ตลอดระยะเวลา แห่งความเป็นไปและเปลี่ยนแปลงของชีวิต
แห่งเหตุการณ์และสิ่งต่างๆ ทั้งรอบตัวในตัว ที่วนเวียนผันผ่านเข้ามาในทางชีวิต
เพื่อให้ชีวิตเริ่มต้น ดำเนินไป และจบลง อย่างถูกทาง
มีธรรมะระดับต้น เพื่ออยู่ในโลกได้อย่างราบรื่น รื่นรมย์ ไม่ขวางโลก ไม่รกโลก
มีธรรมะระดับสูง เพื่ออยู่ในโลก อย่างเข้าใจโลก ไม่แบกโลก ไม่ถูกโลกทับ
และหากต้องจากโลกนี้ไป ก็ไม่อาลัยในโลก
หากเกาะสมุยขาดต้นมะพร้าว หรือแม้แต่น้อยลง เกาะสมุยจะขาดเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ไปทันที
หวังว่าชาวสมุย และผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ คงจะไม่ลืมความจริงข้อนี้
มองจากพื้นที่ภายในทีปภาวันธรรมสถานออกไปยังอีกด้านหนึ่ง
จะเห็นแนวสันเขาที่เต็มไปด้วยต้นมะพร้าว
ที่ลาดเนินเขา เต็มไปด้วยกลุ่มต้นมะพร้าว
คนพื้นที่เห็นเป็นธรรมดา คนต่างถิ่นเห็นแปลกตา
ป่าบริเวณภูเขา ด้านหลังทีปภาวันธรรมสถาน
ยังมีความชุ่มชื่นและมีความสมบูรณ์ด้านพืชพันธุ์พอสมควร
ก้อนหินใหญ่ที่เห็น ก็ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเดียวกัน
สามารถมองเห็นได้ จากถนนเส้นที่ตัดผ่านชุมชนหัวถนน
มองด้วยสายตาจากภาพ คงประเมินขนาดได้ยาก ผู้เขียนเคยปีนขึ้นไปด้านบนของหินก้อนนี้ จะเป็นลานหินพื้นราบ กว้างไม่ต่ำกว่า ๑๕ ตารางเมตร เมื่อมองจากด้านบน จะเห็นทิวทัศน์ ท้องทะเล และชายเขาด้านล่าง พร้อมทั้งชุมชมชายฝั่งทะเล ได้อย่างกว้างไกล
เป็นหินก้อนเดียวกัน เมื่อมองจากอีกด้านหนึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่ามีขนาดใหญ่ทีเดียว
ทางผ่านขึ้นสู่เขาที่ตั้งของป่าผืนดังกล่าว
และเป็นทางผ่านขึ้นสู่พื้นที่ด้านบนของทีปภาวันธรรมสถาน
และลานธรรมขีรธารา
บริเวณพื้นที่ลุ่มบางช่วง บนเชิงเขา จะมีก้อนหินขนาดและรูปทรงต่างๆ
กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ หากสังเกตจะเห็นว่า หินที่เกาะสมุยจะมีลักษณะพิเศษ
คล้ายเกิดจากเม็ดกรวดเม็ดทรายเล็กๆ อัดรวมตัวกัน
โขดหินวางซ้อนกันที่เห็นอยู่ ป๋องแป๋ง
ลูกชายจอมแ่ก่นของช่างประดิษฐ์ (ปี ๒๕๕๐) ชีื้้ให้ผู้เขียนถ่ายภาพไว้ ป๋องแป๋งบอกว่า เหมือนจานบิน
ตามธรรมชาติของเด็กที่่ช่างจินตนาการ
Overlap Stone ที่เกาะสมุยมีอยู่หลายแห่ง ถ้าเป็นก้อนขนาดใหญ่ ก็จะกลายเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ขึ้นไปชม ที่เห็นในภาพยังถือว่า มีขนาดเล็ก
ฤดูฝน น้ำจะไหลลงจากบริเวณสันเขาด้านบน ผ่านช่องทางระหว่างโขดหินใหญ่น้อย
เป็นระบบชลประทานธรรมชาติ ที่เป็นมาเนิ่นนาน
ปีแล้วปีเล่า กระแสน้ำกัดเซาะ จนทำให้หินที่แข็งแกร่งยังทนทานไม่ไหว
กลายสภาพเป็นร่องทางน้ำไหล
ป่าเขา และลำน้ำ เป็นสิ่งคู่กัน และเกื้อกูลกันและกัน
และยังเกื้อกูลชีวิตชุมชนมากมายบนเกาะสมุย
ทีปภาวันธรรมสถาน ก็อาศัยแหล่งน้ำที่ไหลมาจากสันเขาด้านบน
เพื่อใช้อุปโภคภายในสำนัก
ในบางช่วง น้ำมีไม่มากขนาดนี้ บางช่วงก็น้ำก็แห้งขาดหายไป
คงมีให้เห็นเฉพาะทางน้ำเท่านั้น
ก้อนหินขนาดใหญ่น้อย วางทับกันไม่แนบสนิท เกิดเป็นโพลงหิน คล้ายชะง่อน หรือเงื้อมเขา
สามารถเป็นที่หลบฝน หรือนั่งพักภาวนาได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น